Skip to main content

หน้าหลัก

สถิติการรับแจ้งการจ้างแรงงานต่างชาติในประเทศญี่ปุ่น ณ วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖

ด้วยเมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๗ กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการญี่ปุ่น รายงานสถิติการรับแจ้งการจ้างแรงงานต่างชาติในญี่ปุ่น ณ วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตามที่กฎหมายมาตรฐานการจ้างงานและส่งเสริมพัฒนาการจ้างงานท้องถิ่น กำหนดให้นายจ้างที่ว่าจ้างแรงงานต่างชาติมีหน้าที่ต้องรายงานการจ้างต่อกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการเป็นประจำทุกปี ซึ่งรายงานดังกล่าวได้รวมการจ้างแรงงานต่างชาติในสถานะการพำนัก(วีซ่า)ทุกประเภทที่สามารถทำงานได้ในประเทศญี่ปุ่นอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนี้

๑. ณ วันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ มีนายจ้างในสถานประกอบการ ๑๒๖,๗๒๙ แห่ง รายงานว่า ได้ว่าจ้างแรงงานต่างชาติไว้รวมทั้งสิ้น ๗๑๗,๕๐๔ คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ๓๕,๐๕๔ คน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ๕.๑ ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่มีการรายงานการว่าจ้างแรงงานต่างชาติ (สูงสุดทั้งจำนวนสถานประกอบการ และจำนวนแรงงานต่างชาติ) คิดเป็นการจ้างแรงงานต่างชาติเฉลี่ย ๕.๗ คนต่อสถานประกอบการ โดยเป็น การจ้างที่มิใช่การจ้างตรง (เช่น การจ้าง Dispatched Worker การจ้างเหมาบริการ เป็นต้น) ร้อยละ ๒๓.๗ นอกนั้นเป็นการจ้างโดยตรง
จำแนกตามสัญชาติ เป็นชาวจีนมากที่สุด ร้อยละ ๔๒.๔ รองลงมาคือ บราซิล (ร้อยละ ๑๓.๓) ฟิลิปปินส์ (ร้อยละ ๑๑.๒) ผู้มาจากกลุ่มประเทศ G๘ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ (ร้อยละ ๗.๕) เวียดนาม (ร้อยละ ๕.๒) เกาหลีใต้ (ร้อยละ ๔.๗) และเปรู (ร้อยละ ๓.๔) ตามลำดับ โดยแรงงานต่างชาติชาวเวียดนามเพิ่มขึ้น ถึงร้อยละ ๓๙.๙ จนมามีจำนวนสูงกว่าแรงงานต่างชาติชาวเกาหลีใต้ เนื่องจากจำนวนผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิคเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ จำนวนของแรงงานไทยถูกรวมอยู่ในแรงงานชาติอื่นๆ (ไม่ติดใน ๗ อันดับแรกที่มีจำนวนแรงงานต่างชาติมาก)

๒. จำแนกตามกลุ่มสถานะการพำนัก(วีซ่า) พบว่า ร้อยละ ๔๔.๔ เป็นกลุ่มผู้ถือวีซ่าของตนเองที่ทำงานได้ไม่จำกัดประเภท ได้แก่ คู่สมรสชาวญี่ปุ่น คู่สมรสผู้พำนักถาวร และผู้พำนักระยะยาว เป็นต้น รองลงมาคือ วีซ่าผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค (ร้อยละ ๑๙.๐) กลุ่มวีซ่าผู้ชำนาญการ/แรงงานฝีมือ ซึ่งได้แก่ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาเพื่อการทำงานโดยเฉพาะ (ร้อยละ ๑๘.๕) และกลุ่มวีซ่าอื่นๆที่ได้รับอนุญาตให้ทำกิจกรรมอื่นได้นอกเหนือจากที่กำหนดในวีซ่า เช่น นักเรียน/นักศึกษาต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานนอกเวลาเรียนได้ เป็นต้น (ร้อยละ ๑๗.๐) ตามลำดับ

๓. จำแนกตามสัญชาติและวีซ่าพบว่าแรงงานต่างชาติชาวจีนร้อยละ ๓๑.๘ ถือวีซ่าผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค ส่วนชาวบราซิล ชาวเปรูและชาวฟิลิปปินส์เกือบทั้งหมด ถือวีซ่าของตนเองประเภทที่ทำงานได้ไม่จำกัดประเภท ในขณะที่ชาวเวียดนามร้อยละ ๔๕.๘ ถือวีซ่าผู้ฝึกปฏิบัติงานเทคนิค และชาวเกาหลีใต้ ร้อยละ ๔๑.๗ ถือวีซ่ากลุ่มผู้ชำนาญการ/แรงงานมีฝีมือ

๔. จำแนกตามเขตที่ทำงาน แรงงานต่างชาติทำงานอยู่ในกรุงโตเกียวมากที่สุด (ร้อยละ ๒๗.๓) รองลงมาคือ เขต Aichi (ร้อยละ ๑๐.๙) Kanagawa (ร้อยละ ๕.๙) Osaka (ร้อยละ ๕.๓) และ Shizuoka (ร้อยละ ๕.๒) ตามลำดับ โดย ๕ เขตแรกที่มีการจ้างแรงงานต่างชาติทำงานอยู่มากรวมกันเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ของยอดรวม

๕. จำแนกตามอุตสาหกรรม แรงงานต่างชาติทำงานในอุตสาหกรรมการผลิตมากที่สุด (ร้อยละ ๓๖.๖) รองลงมาคือ การบริการ (ร้อยละ ๑๒.๖) ภัตตาคารและที่พัก (ร้อยละ ๑๑.๕) และค้าปลีกและค้าส่ง (ร้อยละ ๑๑.๑) และการเรียน/การสอน (ร้อยละ ๖.๙) ตามลำดับ

๖. จำแนกตามขนาดสถานประกอบการ มีการจ้างแรงงานต่างชาติในสถานประกอบการขนาดที่มีพนักงานไม่เกิน ๓๐ คนมากที่สุด (ร้อยละ ๓๔.๐) รองลงมาคือ สปก.ขนาดที่มีพนักงาน ๑๐๐ – ๔๙๙ คน (ร้อยละ ๒๔.๔) สปก.ขนาดที่มีพนักงาน ๓๐ – ๙๙ คน (ร้อยละ ๑๙.๐) และสปก.ขนาดที่มีพนักงาน ๕๐๐ คนขึ้นไป (ร้อยละ ๑๗.๗) ตามลำดับ ทั้งนี้คิดเป็นการจ้างแรงงานต่างชาติเฉลี่ยสถานประกอบการละ ๕.๗ คน โดยสถานประกอบการขนาดใหญ่มีการจ้างแรงงานต่างชาติเฉลี่ยต่อแห่งสูงกว่าสถานประกอบการขนาดเล็ก

(สามารถคลิ๊กอ่านรายงานโดยรายละเอียดได้ จากไฟล์แนบด้านล่าง)


978
TOP