เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2565 เวลา 18.30 น. (เวลาท้องถิ่นประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง) นางสาวสดุดี กิตติสุวรรณ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่านแรงงาน) สำนักงานแรงงานในประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยนางสาวเกศสุดา มงคลชาติ ที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) เดินทางไปพบกับนางดวงฤทัย ทากากี ประธานบริษัท Jasmine Thai ผู้ประกอบการร้านอาหารไทย ซึ่งแสดงความประสงค์ต้องการจ้างแรงงานไทยมาทำงานในตำแหน่งผู้ปรุงอาหาร (กุ๊ก/เชฟ) เพื่อให้คำแนะนำ/ปรึกษาถึงขั้นตอน/วิธีการนำเข้าแรงงานไทยที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้แนะนำวิธีการรัฐจัดส่งโดยกรมการจัดหางาน ที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาทำงานในประเทศญี่ปุ่นแก่แรงงานไทยได้ โดยแรงงานจะเสียค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ค่าทำหนังสือเดินทาง ค่าตรวจสุขภาพก่อนเดินทาง ค่าตรวจลงตรา (วีซ่า) เป็นต้น
คุณสมบัติตำแหน่งผู้ปรุงอาหาร (กุ๊ก/เชฟ) เบื้องต้นที่ร้านอาหารไทย Jasmine Thai ต้องการ ได้แก่ อายุ 25-45 ปี และมีประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งผู้ปรุงอาหารไทย (กุ๊ก/เชฟ) 10 ปีขึ้นไป หรือ กรณีที่มีประสบการณ์การทำงานตำแหน่งผู้ปรุงอาหารไทย (กุ๊ก/เชฟ) 5 ปีขึ้นไป จะต้องมีหนังสือรับรองผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ระดับ 1 ขึ้นไป จากกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเงินเดือนเริ่มต้นที่ 215,000 เยน (ก่อนหักภาษี)
ร้านอาหารไทย Jasmine Thai (https://www.jasmine-thai.co.jp/en/) เปิดทำการมากว่า 19 ปี ปัจจุบันมี 10 สาขาในกรุงโตเกียว เป็นร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียง ตั้งอยู่ในที่ชุมชนและเดินทางสะดวก รวมทั้งร้านอาหารไทย Jasmine Thai ได้เข้าร่วมโครงการ Thai SELECT กับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงโตเกียว (หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์) ซึ่งยืนยันได้ว่าเป็นร้านอาหารที่ให้บริการและจำหน่ายอาหารไทยรสชาติไทยแท้ ผ่านกระบวนการและขั้นตอนของการปรุงอาหารด้วยส่วนผสมตามตำรับอาหารไทย นอกจากนี้ ร้านอาหารไทย Jasmine Thai แจ้งเพิ่มเติมว่ามีแผนที่จะขยายกิจการโดยเปิดสาขาที่ 11 ในปีหน้า (พ.ศ. 2566)